นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PRIVACY POLICY)
บริษัท ออนไลน์แอสเซ็ท จำกัด (ต่อไปนี้จะเรียกว่า ‘บริษัท/เรา’) เป็นผู้ให้บริการเว็บไซต์ www.irplus.in.th รวมไปถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ และช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ในเครือ บริษัทขอเรียนว่า บริษัทเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และตระหนักดีว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานแต่ละท่านมีความสำคัญอย่างยิ่ง บริษัทจึงต้องการที่จะชี้แจงให้ทราบเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ดังนั้น บริษัทจึงได้มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เพื่อชี้แจงรายละเอียดและ วิธีการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย การคุ้มครองข้อมูล การเข้าถึงข้อมูล การโอนย้าย และการวิเคราะห์ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลในทีนี้หมายถึงข้อมูลต่างๆ ในการทำการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.irplus.in.th , IRPLUS Member Service, การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท คุกกี้ ข้อมูลการทำรายการ และประสบการณ์การใช้งาน
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PRIVACY NOTICE) นี้อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยบริษัทมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งตามกฎหมายเรียกว่า ‘ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล’ โดยมีพนักงานที่บริษัทมอบหมายโดยเฉพาะให้มีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท ซึ่งตามกฎหมายเรียกว่า ‘ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล’ ส่วนท่านถือเป็น ‘เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล’ ตามกฎหมายนี้
ข้อ 1. ข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้างที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย
เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ได้แก่ ข้อมูลที่ท่านให้ไว้โดยตรงจากการลงทะเบียนผ่านระบบ IRPLUS Member Service การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท คุกกี้ ข้อมูลการทำรายการ และประสบการณ์การใช้งานผ่านหน้าเว็บไซต์ ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือช่องทางอื่นใด เช่น
1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปในการใช้งานเว็บไซต์ :
- ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อและนามสกุล
- ข้อมูลติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ สถานที่ทำงาน
- ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ email หมายเลขไอพี (IP Address) ประเภทของโปรแกรมเบราว์เซอร์ (Browser) และคุกกี้ (Cookies)
- ข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้เมื่อท่านติดต่อ หรือร่วมกิจกรรมใด ๆ กับบริษัทฯ เป็นต้น
1.2 ข้อมูลส่วนบุคคล IR Plus AGM :
- ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด สถานภาพสมรส เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง
- ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์
- ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP Address MAC Address Cookie ID
- ข้อมูลอื่นๆ เช่น การใช้งานเว็บไซต์ เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อ 2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูล
เราจะนำข้อมูลของท่านมาใช้เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ www.irplus.in.th แพลตฟอร์มออนไลน์ และช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ในเครือ ตลอดจนการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้งาน ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ท่านให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ เพื่อขอความยินยอม และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ บริษัทจะไม่กระทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์อย่างอื่น ที่นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้กับท่านไว้ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวม
ข้อ 3. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล การสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข การนำข้อมูลไปใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ
ก่อนที่บริษัทจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน บริษัทจะทำการขอความยินยอมจากท่านก่อน โดยการขอความยินยอมบริษัทจะทำโดยชัดแจ้ง เป็นหนังสือหรือทำโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ ท่านมีความเป็นอิสระในการให้ความยินยอมในการที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะไม่กำหนดเงื่อนไขในการให้ความยินยอมเพื่อให้เข้าถึงการรับบริการ หรือเข้าทำสัญญากับบริษัท หากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่มีความจำเป็นหรือเกี่ยวข้องสำหรับการเข้าทำสัญญาหรือการรับบริการนั้น
นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนดขึ้น
ในกรณีที่ท่านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านใดเป็นผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถือเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การให้ความยินยอมของท่านต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำแทนท่านด้วย หากผู้จะให้ความยินยอมนั้นเป็นผู้เยาว์ที่อายุไม่เกิน 10 ปี ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองนั้นโดยตรง
ในกรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านใดเป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ ต้องขอความยินยอมจากผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนบุคคลไร้ความสามารถหรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถนั้นแล้วแต่กรณี
บริษัทจะดำเนินการให้ข้อมูลของท่านนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
ข้อ 4. การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
การเก็บรวบรวมส่วนบุคคล บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่านก่อน เว้นแต่กรณีที่กฎหมายให้อำนาจไว้ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 24 หรือ มาตรา 26
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านไว้ไม่เกิน 120 วัน นับตั้งแต่วันที่จัดการประชุม
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านเฉพาะเท่าที่จำเป็น ภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัทได้แจ้งไว้ใน ข้อ 2.
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นที่ท่านจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา หรือเพื่อต้องเข้าทำสัญญากับบริษัท บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบก่อน และจะแจ้งผลกระทบหากท่านไม่ยินยอมให้ข้อมูลแก่บริษัท
บริษัทจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งที่มาอื่นที่ไม่ใช่ของท่านโดยตรง เว้นแต่กรณีที่บริษัทได้แจ้งท่านถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งที่มาอื่นภายใน 30 วัน และได้รับความยินยอมจากท่านแล้ว หรือเป็นการเก็บรวบรวมที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 24 หรือมาตรา 26
บริษัทจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธ์ุ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน เว้นแต่เป็นกรณีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 26 บัญญัติให้กระทำได้
การใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะไม่ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านก่อนที่จะได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่เป็นข้อมูลของท่านที่เก็บรวบรวมได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 24 หรือมาตรา 26
บริษัทจะดูแลให้พนักงานที่ได้รับมอบหมายในเรื่องนี้โดยเฉพาะ มิให้ ใช้ หรือเปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอม หรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้
ในกรณีที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลภายนอก บุคคลหรือนิติบุคคลภายนอกนั้นจะต้องแจ้งวัตถุประสงค์ในการ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บริษัททราบก่อน และต้องไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้ให้ไว้แก่บริษัท
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทผู้ร่วมวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ การทำวิจัยหรือจัดทำข้อมูลทางสถิติ การบริหารกิจการ และการส่งเสริมการตลาด เช่น การประชาสัมพันธ์กิจกรรม ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ ให้แก่ท่าน
ในกรณีที่บริษัท ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม บริษัทจะบันทึกการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์
ในกรณีที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ประเทศปลายทางหรือองค์กรระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีมาตรฐานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เว้นแต่เป็นกรณีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 28 (1) – (6)
ข้อ 5. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่บริษัทกำหนดไว้ก่อนหรือในขณะหรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนดขึ้น
5.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น)
5.2 สิทธิในการขอเข้าถึง ขอรับข้อมูลหรือสำเนาข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง หรือรับ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเองที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
5.3 สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ ในกรณีที่กฎหมายให้อำนาจบริษัทในการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านก่อน
5.4 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
5.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของได้ ดังต่อไปนี้
- ข้อมูลของท่านไม่มีความจำเป็นที่จะเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน
- เมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมและบริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
- เมื่อท่านใช้สิทธิคัดค้านตาม ข้อ 5.3 และบริษัทไม่อาจปฏิเสธคำขอได้ตามกฎหมาย
- เมื่อข้อมูลของท่านได้ถูกเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
5.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้
- เมื่อบริษัทอยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านร้องขอ
- เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลาย แต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน
- เมื่อข้อมูลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
- เมื่อบริษัทอยู่ระหว่างพิสูจน์คำขอคัดค้านของท่านตามข้อ 5.3 เพื่อดูว่าบริษัทมีอำนาจตามกฎหมายให้ปฏิเสธคำคัดค้านของท่านได้หรือไม่
5.7 ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลของท่านนั้นถูกต้อง: เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หากบริษัทไม่ดำเนินการตามคำร้องขอ บริษัทจะบันทึกคำร้องขอของท่านพร้อมด้วยเหตุผลไว้เป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์
5.8 สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
5.9 การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง: และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล การใช้สิทธิละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น
ข้อ 6. การเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่น
6.1 บริษัทอาจเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่น: โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบก่อนที่จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมทั้งขอความยินยอม โดยมีรายละเอียดต่อไปนี้เป็นอย่างน้อย
- บุคคลหรือหน่วยงานที่จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล
- วัตถุประสงค์ในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล
- วิธีการในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการเชื่อมโยง
6.2 หากมีการเปลี่ยนแปลงการเชื่อมโยงข้อมูล: บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และขอความยินยอมก่อนการดำเนินการ
ข้อ 7. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจปรับปรุงนโยบายส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและ/หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท การดำเนินงานของบริษัท และข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นจากท่าน โดยบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจนก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลง หรืออาจส่งประกาศให้ท่านทราบโดยตรง
ข้อ 8. คุกกี้ (Cookies) คืออะไร?
คุกกี้ (Cookies) คือไฟล์ที่เว็บไซต์ที่คุณเข้าชมสร้างขึ้น ซึ่งช่วยให้คุณทำสิ่งต่างๆ ทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้นด้วยการบันทึกข้อมูลการท่องเว็บ โดยเว็บไซต์ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณลงชื่อเข้าใช้อยู่เสมอ จดจำค่ากำหนดเว็บไซต์ และมอบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องให้แก่คุณ
ข้อ 9. เราใช้คุกกี้อย่างไร?
เราจะจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์จากผู้เข้าเยี่ยมชมทุกรายผ่านคุกกี้หรือ เทคโนโลยีใกล้เคียง เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการใช้งานแพลตฟอร์มและการเข้าถึงบริการของเราผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยจะใช้เพื่อกรณีดังต่อไปนี้
- เพื่อให้ท่านสามารถเข้าสู่ระบบบัญชีของท่านในแพลตฟอร์มของเราได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย
- เพื่อบันทึกข้อมูลการใช้งานบนแพลตฟอร์มของท่าน เนื้อหาข้อมูล รวมถึงรูปแบบแพลตฟอร์มที่ท่านได้ตั้งค่าไว้
- เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้งานและเยี่ยมชมแพลตฟอร์มของท่าน เพื่อพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากที่สุด
- เพื่อศึกษาพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชมแพลตฟอร์มโดยรวม และนำไปพัฒนาเว็บไซต์ให้สามารถใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ข้อ 10. ประเภทของคุกกี้ที่เราใช้
เว็บไซต์ของเราประกอบไปด้วยคุกกี้ดังต่อไปนี้
- คุกกี้ประกอบการทำงานของแพลตฟอร์ม (Functionality Cookies): ใช้เพื่อการจดจำสิ่งที่ท่านเลือกหรือตั้งค่าบนแพลตฟอร์ม รวมไปถึงการนำเสนอข้อมูลที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคล เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา และรูปแบบแพลตฟอร์ม
- คุกกี้สำหรับการโฆษณา (Advertising Cookies): ใช้ในการจดจำสิ่งที่ท่านเคยเยี่ยมชม รวมไปถึงลักษณะการใช้งานของท่าน เพื่อนำเสนอสินค้า บริการ หรือ สื่อโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน และประเมินประสิทธิผลของแคมเปญโฆษณาต่างๆ
- คุกกี้ทางเทคนิค (Strictly Necessary Cookies): เป็นประเภทคุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานแพลตฟอร์ม เพื่อให้ท่านเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย
- คุกกี้เพื่อวัดผลการทำงานของแพลตฟอร์ม (Performance Cookies): ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลของผู้เข้าชมแพลตฟอร์มแบบไม่ระบุตัวตน และนำมาวิเคราะห์จำนวนและพฤติกรรมของผู้เข้าชม เพื่อปรับปรุงแพลตฟอร์มให้มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น
- คุกกี้บุคคลที่สาม (Third-party Cookies): คุกกี้ชนิดนี้จะถูกกำหนดใช้โดยผู้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม อาทิ Google Analytics
ข้อ 11. การตั้งค่าคุกกี้
ในกรณีที่คุณไม่ประสงค์ให้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้บริการผ่านทางคุกกี้ ซอฟต์แวร์ และเครื่องมือการตรวจวัด คุณสามารถลบหรือปฏิเสธคุกกี้ หรือซอฟต์แวร์การตรวจวัดบางรายการผ่านทางเบราว์เซอร์ได้ โดยหากคุณนำคุกกี้ออก คุณจะออกจากระบบเว็บไซต์ และระบบอาจลบค่ากำหนดที่บันทึกไว้ของคุณ ด้วยวิธีการดังนี้
- การตั้งค่าคุกกี้ใน Chrome
- การตั้งค่าคุกกี้ใน Safari และ iOS
- การตั้งค่าคุกกี้ใน Internet Explorer
- การตั้งค่าคุกกี้ใน Firefox
ข้อ 12. ท่านจะติดต่อบริษัทได้อย่างไร
หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ผ่านช่องทางดังนี้
- อีเมล: [email protected]
- โทร: 02-0226200 ต่อ 622 (วันเวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 09.30-17.00 น.)
- สถานที่ติดต่อ: บริษัท ออนไลน์แอสเซ็ท จำกัด 466 ซอย รัชดาภิเษก 28 แขวง สามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
เมื่อคุณตกลงยอมรับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทจะถือว่าท่านยอมรับว่าการใช้บริการใดๆ ของบริษัทถือเป็นการยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการทั้งหมด และการตกลงยอมรับดังกล่าวมีผลสมบูรณ์
นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับคู่ธุรกิจ และผู้เกี่ยวข้องของบริษัท
บริษัท ออนไลน์แอสเซ็ท จำกัด และบริษัทในเครือหรือในกลุ่ม (รวมต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวและตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ธุรกิจ กรรมการของคู่ธุรกิจ รวมถึงผู้ปฏิบัติงานและพนักงานของคู่ธุรกิจ (รวมต่อไปนี้เรียกว่า “ท่าน”) เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมตลอดถึงวิธีการจัดการ การลบ และการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (รวมต่อไปนี้เรียกว่า “การประมวลผล”) ในทุกช่องทางตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังนี้
1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
-
1.1
เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของคู่ธุรกิจก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งคู่ธุรกิจเป็นคู่สัญญากับบริษัท
1.2 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทเพียงเท่าที่จำเป็น
-
(1) เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามสัญญาสัญญาระหว่างคู่ธุรกิจกับบริษัท
และบริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการจัดซื้อ จัดจ้าง ตรวจรับ ชำระค่าสินค้าและบริการ
บริหารจัดการความสัมพันธ์ ตรวจสอบและประเมินการทำงานตามข้อตกลงที่กำหนดไว้ในใบสั่งซื้อหรือสัญญาหรือเอกสารอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับท่าน
(2) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เช่น เพื่อการบริหารจัดการภายในของบริษัท การจัดการ การพัฒนา และการดำเนินการใด ๆ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการและพัฒนาสินค้า และ/หรือ บริการ (รวมถึงเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน) การวิจัย เช่น ทำแบบสอบถาม เข้าสัมภาษณ์ การตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่น ๆ และการบำรุงรักษาระบบสารสนเทศ
(3) เพื่อประโยชน์ทางด้านความปลอดภัย เช่น จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงระบบไอที สารสนเทศ เช่น การเข้าสถานที่ของบริษัท การเข้าสู่ระบบ (Log in) เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
(4) เพื่อการแจ้งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ผ่านทาง หนังสือ อีเมล SMS แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ และไดเร็กเมล
(5) เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
1.4 เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย
1.6 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้
1.7 กรณีที่ท่านให้ความยินยอมบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตามวัตถุประสงค์กำหนดไว้ในแต่ละความยินยอม ดังนี้
-
(1) เพื่อให้บริษัทดำเนินการจัดกิจกรรมนอกจากที่กล่าวมาข้างต้น
โดยบริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติมซึ่งบริษัทจะแจ้งให้ทราบและขอความยินยอมจากท่านใหม่เป็นคราว ๆ ไป
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
-
2.1 บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านติดต่อ ขายสินค้า หรือให้บริการใด ๆ แก่บริษัท เช่น
-
(1) ข้อมูลนามบัตร เช่น ชื่อ นามสกุล ตำแหน่งงาน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล
(2) ข้อมูลที่ใช้ในการยืนยันตัวตนได้ เช่น ชื่อ นามสกุล เลขที่และข้อมูลบนบัตรประชาชน รูปถ่าย และข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ ที่ใช้ในการระบุตัวตน
(3) ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของท่าน เช่น ข้อมูลประวัติและการปฏิบัติงาน ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงาน และข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของท่าน รวมทั้งข้อมูลบัญชีและการเงินเช่น ค่าตอบแทน หมายเลขบัญชีธนาคาร
-
(1) ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีที่เกิด รูปถ่าย หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขใบขับขี่
หมายเลขหนังสือเดินทาง
(2) ข้อมูลการติดต่อ เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ หรือข้อมูลโซเชียลมีเดีย
(3) ข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรม เช่น ประวัติการร่วมกิจกรรมในครั้งก่อนๆ
-
(1) เมื่อบริษัทจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของบริษัท เช่น ข้อมูลชีวภาพ
(เช่น ข้อมูลใบหน้าสำหรับใช้ในการทำ facial recognition หรือลายนิ้วมือ) เพื่อใช้ในการระบุตัวตน
(2) ในบางกรณี บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษ เช่น บริษัทอาจจำเป็นต้องใช้บัตรประชาชนซึ่งมีข้อมูลศาสนาของท่านเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่านหรือดำเนินการทางภาษี
(3) ข้อมูลสุขภาพ เช่น ข้อมูลการแพ้อาหาร เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ
3. การใช้คุกกี้
-
บริษัทมีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กำหนดไว้ตาม นโยบายการใช้คุกกี้
4. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
-
4.1 ในกรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน
ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับบริษัทได้ตลอดเวลา
ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย
หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านี้
4.2 หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทหรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง
อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้
5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
-
5.1
บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท
เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น
ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวมและอายุความตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
5.2
บริษัทจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
-
6.1 บริษัทอาจเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับ
-
(1) บริษัทในเครือหรือในกลุ่ม
(2) บุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มของบริษัท (“บุคคลอื่น”) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เพียงเท่าที่จำเป็นและเป็นประโยชน์กับการนั้น ๆ เช่น หน่วยงานรัฐ (เช่น กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด กระทรวงพาณิชย์ ศาลหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี) ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง (เช่น ผู้ให้บริการด้านการจัดการประชุม สถาบันการเงิน ผู้รับประกันและตัวแทนหรือนายหน้าของผู้รับประกัน บริษัทหลักทรัพย์ พันธมิตรและคู่ธุรกิจ ที่ปรึกษา ผู้ให้บริการทางวิชาชีพ และบุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
-
7.1 บริษัทอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือหรือในกลุ่ม
หรือบุคคลอื่นในต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา
หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่านหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา
หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
7.2 บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่บริษัทจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
7.3 ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามกฎหมาย รวมถึงบริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
8. มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
-
8.1
ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทและบริษัทได้นำมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย
การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง
และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง
เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
8.2 บริษัทจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจะจัดให้มีการทบทวน มาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
9. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
-
9.1 ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยสรุปดังนี้
- สิทธิขอถอนความยินยอม ที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลขอดูหรือคัดลอกข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- สิทธิขอส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
- สิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน
- สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ (anonymous)
- สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- สิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
9.2 ท่านสามารถใช้สิทธิตามกฎหมาย ได้โดยติดต่อที่ [email protected] (โดยจะเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล)
10. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
-
10.1 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล: บริษัท ออนไลน์แอสเซ็ท จำกัด
สถานที่ติดต่อ: 466 ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10310
10.2 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทในเครือหรือในกลุ่มแยกตามแต่ละบริษัท
10.3 กรณีที่ท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วน email: [email protected]
กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทจะประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ผ่านทางเว็บไซต์นี้ ซึ่งท่านควรเข้ามาตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นครั้งคราว โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ประกาศ
นโยบายควบคุมการเข้าถึงของผู้เข้าร่วมประชุม
การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของผู้เข้าร่วมประชุม ดังนี้
1) อนุญาตให้ผู้เข้าร่วมประชุมเข้าถึงข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ต้องการใช้งานได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจาก เจ้าของข้อมูล/เจ้าของระบบ ตามความจำเป็นต่อการใช้งานเท่านั้น
2) ป้องกันผู้เข้าร่วมประชุมการเข้าถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีการกำหนดขั้นตอนในการเข้าถึง ซึ่งประกอบด้วยรายละเอียดอย่างน้อย ได้แก่ การลงชื่อผู้ใช้งาน เข้าใช้งานระยะเวลาที่ให้บริการเท่านั้น ฯลฯ
3) ควบคุมผู้เข้าร่วมประชุมเข้าถึงระบบสารสนเทศ โดยมีการควบคุมตามสิทธิของแต่ละบุคคล
4) กรณีข้อมูลเป็นไฟล์ความลับ ต้องทำการกำหนดรหัสผ่านของไฟล์เอกสาร เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยมิชอบ หรือการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
5) กำหนดสิทธิผู้เข้าร่วมประชุมแต่ละกลุ่มที่เกี่ยวข้องตามความจำเป็นต่อการใช้งานขั้นต่ำ (Least Privilege) โดยต้องได้รับอนุญาตจาก เจ้าของข้อมูล/เจ้าของระบบ เช่น เข้าถึง อ่านอย่างเดียว สร้างข้อมูล แก้ไข ลบข้อมูล อนุมัติ ไม่มีสิทธิ ฯลฯ โดยจัดให้มีการทบทวนสิทธิเมื่อจำเป็น
6) ให้ถือว่าการอนุมัติการเข้าถึงระบบสารสนเทศโดย เจ้าของข้อมูล/เจ้าของระบบ เป็นการมอบอำนาจให้ผู้เข้าร่วมประชุมเข้าถึงระบบสารสนเทศ
7) กำหนดให้มีการเข้ารหัสสำหรับข้อมูลสำคัญหรือข้อมูลลับแต่ละประเภทที่จัดเก็บในระบบฐานข้อมูลโดยข้อมูลลับต้องมีการเข้ารหัสในการจัดเก็บ และข้อมูลต้องถูกส่งผ่านช่องทางที่มีการเข้ารหัส เช่น SSL เป็นต้น
8) จัดให้มีการทบทวนสิทธิการเข้าถึงข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของผู้เข้าร่วมประชุมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ประกาศความเป็นส่วนตัว สำหรับผู้ใช้งาน IR PLUS AGM
(Privacy Notice for Users)
ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้จัดประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า (Privacy Notice for Users) ฉบับนี้ขึ้น (“ ประกาศความเป็นส่วนตัวฯ” ) โดยกำหนดให้มีหลักเกณฑ์ มาตรการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ .ศ.2562 (“พรบ . คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ) กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความสำคัญกับการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของท่านและเพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมตลอดถึงการลบ และทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ทั้งนี้ เราอยากให้ท่านได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า เรานำข้อมูลของท่านไปใช้อย่างไร และทำไมถึงนำไปใช้ โดยที่ความไว้วางใจ ความโปร่งใส และความซื่อสัตย์ ถือเป็นมาตรฐานหลักของเราเพื่อให้เกิดความไว้วางใจและสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับทุกท่านในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเรา
A. ขอบเขตการบังคับใช้
ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้มีขึ้นเพื่อเป็นการชี้แจงรายละเอียดและวิธีการจัดการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน โดยเราอาจดำเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดดังต่อไปนี้ รวมทั้งที่ได้กำหนดไว้โดยเฉพาะเจาะจงอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ หรือ แอปพลิเคชันนี้ หากมี ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดเป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการให้บริการและหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น ท่านจึงควรติดตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดไว้นี้อยู่เสมอ อย่างไรก็ดี เราจะเผยแพร่การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในหน้าเว็บไซต์ หรือ แอปพลิเคชันนี้ และในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญ เราจะแจ้งให้ท่านทราบ และในกรณีที่จำเป็นตามกฎหมาย เราอาจดำเนินการขอความยินยอมเพิ่มเติมจากท่าน
อนึ่ง ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้มีขึ้นเพื่อบังคับใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการลงทะเบียนสมัครใช้บริการระบบ IR Plus AGM การสมัครใช้บริการสมาชิก การใช้สินค้าและบริการ การเข้าถึงและใช้ระบบเข้าร่วมประชุมของเรา เนื้อหา ฟีเจอร์ เทคโนโลยี หรือฟังก์ชันที่ปรากฏในเว็บไซต์นี้ ตลอดจนแอปพลิเคชันของเรา ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่เราจะได้พัฒนาหรือจัดให้มีขึ้นในอนาคต
1. บุคคลที่เกี่ยวข้องที่มีผลบังคับใช้ ดังนี้
1) ท่าน
ทุกท่านที่ได้เข้าหรือจะเข้ามาเป็นผู้ใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือระบบ IR Plus AGM ของเรา
2) บริษัท หรือ เรา
บริษัท ออนไลน์แอสเซ็ท จำกัด ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0105544093350 ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบการประชุมอิเล็กทรอนิกส์ในนาม IR PLUS AGM
2. บทบาทของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อให้ประกาศความเป็นส่วนตัวฯ นี้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์การบริหารจัดการมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เราจึงได้กำหนดบทบาทผู้เกี่ยวข้องกับการให้บริการ IR PLUS AGM ทั้งหมดนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย ดังต่อไปนี้
1) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject)
บุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น แต่ไม่ใช่กรณีที่บุคคลมีความเป็นเจ้าของข้อมูล (Ownership) หรือเป็นผู้สร้างหรือเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นเอง โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะหมายถึงบุคคลธรรมดาเท่านั้น และไม่รวมถึง “นิติบุคคล” (Juridical Person) ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย เช่น บริษัท สมาคม มูลนิธิ หรือองค์กรอื่นใด และไม่รวมถึงผู้ถึงแก่กรรม ทั้งนี้ เราถือว่าท่านตามนิยามของเรามีฐานะเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วย
2) ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูล กำหนดการใช้งานข้อมูล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือเราที่สามารถจะดำเนินการภายใต้การให้บริการแก่ท่าน โดยมีหน้าที่ รักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล จัดให้มีการลบและทำลายข้อมูลอย่างถูกต้อง
3) ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor)
บุคคลหรือนิติบุคคลที่ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือเราที่สามารถจะดำเนินการภายใต้การให้บริการแก่ท่าน
4) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
บุคคลที่มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลและประมวลผลข้อมูลองค์กรที่เราเป็นผู้แต่งตั้งที่สามารถให้คำแนะนำและตรวจสอบผู้ควบคุมข้อมูลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้
B. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมเรียกว่า “การประมวลผล” ซึ่งเราได้กระทำทั้งในฐานะ ผู้ควบคุมข้อมูล (Data Controller) และผู้ประมวลผลข้อมูล (Data Processer) โดยขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีของการดำเนินการในข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฯ ฉบับนี้โดยหลักแล้วจะมีวัตถุประสงค์หลักและมีฐาน ดังนี้
1.1 ฐานความยินยอม (Consent): เราจะขอความยินยอมจากท่านก่อนการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1) เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่านก่อนการเข้าใช้งานระบบ IR PLUS AGM
2) เพื่อติดต่อท่าน ผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ (SMS) อีเมล หรือผ่านช่องทางใด ๆ เพื่อสอบถาม หรือแจ้งให้ท่านทราบ หรือตรวจสอบและยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีของท่าน หรือสำรวจความคิดเห็น หรือแจ้งข้อมูลข่าวสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของเราตามที่จำเป็น
1.2 ฐานสัญญา (Contract): เราเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญารับบริการจากเรา ซึ่งรวมไปถึงการพิจารณาอนุมัติและการให้บริการ การส่งมอบบริการแก่ท่าน การให้คำแนะนำและการจัดการเกี่ยวกับบริการ และรวมถึงการดำเนินการใด ๆ ของเรา ซึ่งหากไม่ได้ดำเนินการแล้วจะกระทบต่อการดำเนินการหรือการให้บริการของเรา หรือจะไม่สามารถให้บริการได้อย่างเป็นธรรมและต่อเนื่อง
1.3 ฐานความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) : เราจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น
1) เพื่อบริหารจัดการให้การให้บริการและอำนวยความสะดวกการให้บริการแก่ท่านบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของเราตามที่ท่านร้องขอให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ระบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
2) เพื่อตรวจสอบข้อมูลการใช้บริการของท่านเพื่อการพัฒนามาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยในการใช้บริการ การจัดการและการคุ้มครองโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยในส่วนนี้เราอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพียงเท่าที่จำเป็นและอาจดำเนินการให้มีการเข้ารหัส (Encrypt) ก่อนนำไปใช้ หรือจัดให้มีการสุ่มตรวจ การทดสอบการเข้าใช้งานโดยบุคคลอื่นเพื่อนำไปใช้ในการบริหารจัดการความเสี่ยง ตรวจจับ ป้องกัน หรือขจัดการฉ้อโกง หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นการละเมิดกฎหมาย ระเบียบการใช้งานที่เกี่ยวข้อง หรือข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน (“ ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้” ) ของเรา
3) เพื่อประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของเรา เช่น เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย จัดทำสถิติ และพัฒนาการให้บริการ การจัดทำฐานข้อมูลหรือรายงานเพื่อเป็นการพัฒนาและปรับปรุง ผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบงานต่าง ๆ ของบริษัท เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการของบริษัท หรือ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการตอบสนองความต้องการของท่าน ตลอดจนนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่าน โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
1.4 ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) : เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายการประชุมผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ กฎหมายการประกอบธุรกิจ กฎหมายสถาบันการเงิน กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
C. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เราอาจจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านในหลากหลายช่องทางและหลายประเภท ดังนี้
1. แหล่งที่มาของข้อมูล
เราอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงจากท่านหรือโดยอ้อมจากแหล่งที่มาอื่น ๆ ด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น คุกกี้ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนข้อมูลเล็ก ๆ ที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ของท่านที่จะทำให้เว็บไซต์สามารถจดจำข้อมูลการเข้าถึงเว็บไซต์หรือวิธีที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ในแต่ละครั้ง (ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้) ซึ่งวิธีการเก็บข้อมูลมีดังนี้
1.1 กรณีที่ท่านให้ข้อมูลโดยตรงกับเรา
เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลที่ท่านส่งให้กับเรา เช่น ข้อมูลที่ท่านกรอกหรือที่ปรากฏบนเอกสารที่ท่านส่งขณะลงทะเบียนสมัครใช้บริการ อาทิ ข้อมูลตามบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง หนังสือมอบอำนาจ ทะเบียนบ้าน หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้ใช้งานให้ดำเนินการแทน ข้อมูลที่ใช้ในการสมัครใช้บริการ IR Plus AGM และข้อมูลการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในเว็บไซต์หรือ แอปพลิเคชัน ข้อมูลการทำแบบสำรวจ ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน (Account) หรือข้อมูลที่ท่านได้แก้ไขปรับปรุงในข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน (Account) ของท่าน หรือข้อมูลที่ได้จากการที่ท่านติดต่อกับเราหรือทีมงานของเรา รวมทั้งเสียงบันทึกติดต่อสื่อสารกับเราหรือทีมงานของเรา หรือบันทึกรายละเอียดการติดต่อ หรือข้อมูลที่ได้จากบัญชีผู้ใช้งาน (Account) อื่น ๆ ที่เรามีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าท่านควบคุมดูแลอยู่ อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ข้อมูลทุกชนิดที่แสดงบนหน้าประวัติผู้ใช้งานและประวัติการใช้บริการต่างๆ อาทิ ชื่อ - นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขหนังสือเดินทาง ภาพถ่ายใบหน้า วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ตามบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง ที่อยู่ปัจจุบัน เพศ สัญชาติ รายได้ สถานภาพ ความสัมพันธ์กับหรืออำนาจในการกระทำการแทนบุคคลอื่นใดตามกฎหมาย อาชีพ ชื่อและที่อยู่สถานที่ทำงาน และความเห็นทุกอย่างที่ท่านได้แสดงผ่านเว็บไซต์ หรือ แอปพลิเคชัน (ถ้ามี) เพื่อจัดเก็บไว้กับบัญชีผู้ใช้งาน (Account) รวมตลอดถึงวันที่สร้างข้อมูลดังกล่าว
1.2 กรณีที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม หรือแอปพลิเคชันของเรา
เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบริการที่ท่านใช้และวิธีการใช้งานของท่าน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ข้อมูลอุปกรณ์ที่ท่านใช้สำหรับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ หรือ แอปพลิเคชัน หรือ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) ข้อมูลการติดต่อและสื่อสารระหว่างท่านและผู้ใช้งานรายอื่น และข้อมูลจากการบันทึกการใช้งาน เช่น ตัวระบุอุปกรณ์ หมายเลข IP ของคอมพิวเตอร์ รหัสประจำตัวอุปกรณ์ ประเภทอุปกรณ์ ข้อมูลเครือข่ายมือถือ ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ประเภทของเบราว์เซอร์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกเว็บไซต์ ข้อมูลเว็บไซต์ ที่ผู้ใช้งานเข้าถึงก่อนและหลัง (Referring Website) ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้เว็บไซต์ ข้อมูลบันทึกการเข้าสู่ระบบ (Login Log) ข้อมูลรายการการทำธุรกรรม (Transaction Log) พฤติกรรมการใช้งาน (Customer Behavior) สถิติการเข้าเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน เวลาที่เยี่ยมชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน (Access Time) ข้อมูลที่ท่านค้นหา การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ในเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน และข้อมูลที่เราได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน หรือข้อมูลที่เราได้รับจากบริษัทในกลุ่มธุรกิจเรา หรือพันธมิตรซึ่งทำงานร่วมกับเรา
2. ประเภทของข้อมูล
ประเภทของ “ข้อมูลส่วนบุคคล” ของท่านที่เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
2.1 ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ / นามสกุล
2.2 ข้อมูลรายละเอียดการติดต่อ: ที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์ / ที่อยู่ปัจจุบัน / ที่อยู่ตามที่ปรากฏบนบัตรประจำตัวประชาชน / ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์ / หมายเลขโทรศัพท์ / หมายเลขโทรศัพท์มือถือ / หมายเลขโทรสาร / ชื่อของตัวแทนหรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนในนามของท่านของบริษัท / ที่อยู่สำหรับการติดต่อทางธุรกิจ / หมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อทางธุรกิจ / รายละเอียดการติดต่อของบุคคลอ้างอิง
2.3 ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน เช่น ภาพถ่าย / ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน / เลขประจำตัวประชาชน / หนังสือเดินทาง / หนังสือสำคัญ,
2.4 ข้อมูลทางเทคนิค ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ของท่าน และรายละเอียดทางเทคนิค : / หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ Internet Protocol Address (IP Address) / รหัสอ้างอิงฮาร์ดแวร์ เช่น Universal Device Identifier (UDID) หรือ MAC Address / รหัสอ้างอิงซอฟต์แวร์ เช่น ข้อมูลตัวระบุโฆษณาสำหรับระบบปฏิบัติการไอโอเอส (IDFA) / ข้อมูลตัวระบุโฆษณาสำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (AAID) เครือข่าย รายละเอียดการเชื่อมต่อ รายละเอียดการเข้าถึง / การเข้าถึงการใช้บริการของระบบด้วยการพิสูจน์ตัวตนเพียงครั้งเดียว (SSO) / ข้อกำหนดเฉพาะทางเทคนิคและข้อมูลเฉพาะที่ใช้ระบุตัวตน ( เช่น สถานที่ตั้ง เว็บบีคอน (web beacon) ล็อก (log) ไอดี / บันทึกเวลาการเข้าใช้ระบบ / ระยะเวลาที่ใช้ในการเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์หรือคุกกี้ / ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ประวัติการค้นหา รายละเอียดการค้นหา / ประเภทและเวอร์ชันของเบราว์เซอร์ / ประเภทและเวอร์ชันของเบราว์เซอร์ปลั๊กอิน / ระบบและแพลตฟอร์มปฏิบัติการ และเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม
2.5 ข้อมูลการเข้าใช้ การขอใช้บริการ และรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ เช่น ข้อมูลการเข้าใช้ระบบของบริษัท และแอปพลิเคชันของบริษัท / ชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน และรหัสการยืนยันตัวตนอื่นใด / ความสนใจ ความต้องการ และกิจกรรมการใช้งาน / ข้อมูลรูปภาพ ภาพเคลื่อนไหวแบบถ่ายทอดสด หรือบันทึกภาพเคลื่อนไหว
2.6 ข้อมูลรายละเอียดการใช้งาน เช่น ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ และบริการของท่าน
2.7 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนตามที่ปรากฏในเอกสารระบุตัวตน ( เช่น ศาสนาบนบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง ) / ข้อมูลทางชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือและการจดจำใบหน้า )
2.8 ข้อมูลอื่น ๆ เช่น บันทึกการโต้ตอบและการสื่อสารระหว่างท่านกับบริษัท ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใด ๆ ก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (social media) / ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไม่ว่าผ่านช่องทางใด ๆ
3. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามสมควรเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่เราได้รับข้อมูล และเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของเราตามกฎหมายและกฎระเบียบ อย่างไรก็ตาม เราอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลานานกว่านั้นเพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งโดยหลักแล้วเราจะพิจารณาระยะเวลาการเก็บ ดังนี้
3.1 กรณีท่านกำลังเข้าใช้บริการจากเราหรืออยู่ในระหว่างการใช้บริการ เราจะทำการเก็บข้อมูลของท่านตลอดระยะเวลาตั้งแต่ขั้นตอนการก่อนเข้าใช้บริการตลอดจนใช้บริการของเราหรือตลอดจนจบการประชุม เพื่อประโยชน์ในการเข้าใช้บริการสูงสุด
3.2 กรณีเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว เราจะดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลไปตลอดระยะเวลา 1 (หนึ่ง) ปี เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการจัดทำรายงานการประชุม ส่งมอบข้อมูลทั้งหมดให้ผู้จัดการประชุม และเพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับการรับรองการประชุมและการจัดการประชุมในครั้งถัดไป
3.3 กรณีท่านไม่ได้ใช้บริการจากเราอีกต่อไป หากท่านไม่ประสงค์จะใช้บริการจากเราแล้ว เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่มีความจำเป็นตามฐานของสัญญาที่ได้มีการลงนามกัน หรือตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ รายละเอียดตามข้างต้นเป็นตัวอย่างข้อมูลที่เราอาจจะเก็บรวบรวม โดยเราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น และในระยะเวลานานเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฯ นี้เท่านั้นหรือตามที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้เราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้นานกว่านั้นได้
หากท่านปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นในการจัดหาผลิตภัณฑ์ หรือบริการตามที่ท่านร้องขอ เราอาจไม่สามารถเสนอหรือจัดหาผลิตภัณฑ์และให้บริการของเราให้แก่ท่านได้ ซึ่งอาจกระทบถึงการเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาที่มีกับท่าน และอาจส่งผลกระทบต่อท่านทำให้ท่านไม่ได้รับความสะดวกในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ หรือใช้บริการของเราทั้งหมดหรือแต่บางส่วน รวมทั้งอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่เรามีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคล ( เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ) ของบุคคลอื่นใดนอกจากท่านเองแก่เรา เช่น ผู้รับมอบฉันทะในการเข้าประชุมแทน ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ให้บุคคลที่สามดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าว (หากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม) หรืออ้างฐานกฎหมายอื่นๆ นอกจากนี้ ท่านยังมีหน้าที่ดำเนินการเพื่อให้เราสามารถเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามดังกล่าวตามกฎหมาย และตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้
D. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อประโยชน์ในการให้บริการตามเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือระบบ IR PLUS AGM ของเรานี้ เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบริษัทในกลุ่มธุรกิจเรา หรือพันธมิตรซึ่งทำงานร่วมกับเราหรือใช้บริการระบบ IR PLUS AGM ของเรา หรือผู้ให้บริการอื่นทั้งในและต่างประเทศ เช่น ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ (Cloud) หรือบุคคลอื่นใดที่เราได้ว่าจ้างให้ดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้เพื่อประโยชน์ในการให้บริการและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการในด้านต่าง ๆ แก่ท่านมากยิ่งขึ้น หรือเพื่อปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการให้บริการและการเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ ในเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือระบบ IR PLUS AGM ของเรา การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือระบบ IR Plus AGM ของเราและเครือข่ายที่ให้บริการโดยเรา หรือเพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการของเรา (“ ผู้รับข้อมูลต่อ” ) โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้รับข้อมูลต่อ เราจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตและวัตถุประสงค์ที่เราได้กำหนดไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
เพื่อความจำเป็นและเพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไปข้างต้นแล้ว โดยบุคคลที่สามที่ว่านี้ให้หมายรวมถึงบุคคลหรือในกรณี ดังต่อไปนี้
1. บริษัทในเครือ หรือกลุ่มบริษัทของเรา หรือในนาม efin Group
เราอาจเปิดเผยข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมให้แก่ บริษัท ออนไลนแอสเซ็ท จำกัด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม efin Group เพื่อวัตถุประสงค์แห่งประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
2. ผู้ให้บริการของเรา
เราอาจเปิดเผยข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมให้แก่ บริษัท ตัวแทน หรือผู้รับจ้างรายอื่นเพื่อให้บริการในนามของเราหรือเพื่อช่วยเราในการให้บริการแก่ท่าน ดังนั้น เราอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล ให้แก่บุคคลดังนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
1) ผู้ให้บริการและพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซอฟต์แวร์ เว็บไซต์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ
2) ผู้ให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและระบบคลาวด์
3) ผู้ให้บริการตรวจสอบ แจกแจง และวิเคราะห์ข้อมูล
4) ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารและสนับสนุนการบริการ
5) ผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการ
โดยหลัก เราจะใช้บริการจากผู้ให้บริการไม่ว่าจะเป็น thaibulkSMS / Wowza / Huawei Cloud / ByteArk เป็นต้น
และรวมถึงผู้ให้บริการอื่นที่เป็นผู้ให้บริการในลักษณะ Outsource ขึ้นอยู่กับลักษณะของงานในแต่ละงาน
ภายในช่วงระยะเวลาที่ให้บริการ ผู้ให้บริการดังกล่าวอาจมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ดี เราจะให้ผู้ให้บริการดังกล่าวเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นเพื่อการให้บริการเท่านั้น และมีการดำเนินการทำข้อตกลงกาประมวลผลหรือการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย โดยเราจะขอให้ผู้ให้บริการไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ทั้งนี้ เราจะทำให้มั่นใจว่าผู้ให้บริการทุกรายที่เราทำงานด้วยจะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความปลอดภัย และหากมีใบอนุญาตประกอบการให้บริการในการรับรองใดของผู้ให้บริการ เราจะนำมาแสดงให้ท่านท่านให้เป็นที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ
3. บุคคลภายนอกที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
เราอาจเปิดเผยข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย การดำเนินคดีทางศาล คำสั่งศาล หมายเรียก หรือกระบวนการทางกฎหมายอื่น ๆ โดยหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล เจ้าหน้าที่ของรัฐ สถานทูต สถานกงสุล หรือบุคคลอื่นใดที่เราเชื่อว่าจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ หรือเพื่อปกป้องสิทธิของเรา สิทธิของบุคคลที่สาม หรือความปลอดภัยของบุคคลใด ๆ หรือเพื่อสืบหา ป้องกัน หรือจัดการกับปัญหาการฉ้อโกง ความมั่นคง หรือความปลอดภัย ( เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.), หรือ กรมสรรพากร)
อย่างไรก็ดี หากท่านเชื่อว่าบุคคลที่เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามข้างต้น ได้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่เราได้กำหนดไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ท่านสามารถแจ้งเราเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยเราขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบไปพร้อมกันด้วยว่า ท่านได้มีการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สินค้า หรือบริการของผู้รับข้อมูลต่อหรือไม่ เนื่องจากอาจเป็นไปได้ว่าผู้รับข้อมูลต่อดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการใช้บริการของท่านจากการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สินค้า หรือบริการของผู้รับข้อมูลต่อแยกต่างหากจากเรา ซึ่งในกรณีดังกล่าวเราไม่สามารถรับผิดชอบในความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวของข้อมูลใด ๆ ของท่านที่เก็บรวบรวมโดยเว็บไซต์ แอปพลิเคชันผลิตภัณฑ์ หรือบริการของผู้รับข้อมูลต่อดังกล่าวได้ ท่านจึงควรใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์ และบริการของผู้รับข้อมูลต่อด้วย
นอกจากนี้ เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อาทิ การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเป็นการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงในกรณีที่มีความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้ของเรา ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมบริษัท หรือการขายกิจการ เราอาจถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนที่เราเก็บรวบรวมไว้ไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้อง
E. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องที่มีผลบังคับใช้ ท่านในฐานะผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิต่อข้อมูลของตนเอง ดังต่อไปนี้
1. สิทธิในการได้รับการแจ้งให้ทราบ (Right to be Informed)
ท่านมีสิทธิได้รับการแจ้งให้ทราบในรายละเอียดและวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล การใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ท่านในฐานะผู้เป็นเจ้าของข้อมูลทราบก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูล โดยท่านมีสิทธิที่จะทราบว่าจะจัดเก็บข้อมูลอะไรบ้าง รวมถึงระยะเวลาการจัดเก็บ สถานที่ และวิธีการติดต่อกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะแสดงให้ท่านเห็นการแจ้งข้อมูลเหล่านี้ตามข้อกำหนดประกาศความเป็นส่วนตัว อาจปรากฎอยู่ในรูปแบบเอกสารดังที่ได้กล่าวไปในประกาศนี้
2. สิทธิในการให้ความยินยอม (Right of Consent)
ท่านมีสิทธิที่จะเลือกได้ว่าจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเราหรือไม่ ท่านสามารถเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลนั้นกับเราได้ ถ้าเราได้ขอความยินยอมจากท่านเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และท่านได้เลือกที่จะถอนความยินยอมในภายหลัง เราจะเคารพการตัดสินใจของท่านและปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายของเรา
อย่างไรก็ตาม การเลือกว่าจะไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับเรา อาจทำให้เราไม่สามารถให้พิจารณาการสรรหาบุคคลากรให้ตรงกับคุณสมบัติกับทางเราได้ ซึ่งท่านได้ทราบขณะที่มีการให้ความยินยอมกับเรา ทั้งนี้ การให้ความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการและการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ซึ่งได้ดำเนินการอย่างถูกกฎหมายก่อนมีการให้ความยินยอมดังกล่าว
3. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdrawal of Consent)
ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมได้เฉพาะแต่กรณีที่ท่านได้เคยให้ความยินยอมไว้แก่เราในการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งถือเป็นฐานความยินยอมจากท่านเอง โดยท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมทั้งหมดหรือบางส่วนในเวลาใดก็ได้
อย่างไรก็ตาม การเพิกถอนความยินยอม อาจทำให้เราไม่สามารถพิจารณาการสรรหาบุคคลากรให้ตรงกับคุณสมบัติกับทางเราได้ ซึ่งท่านได้ทราบขณะที่มีการเพิกถอนความยินยอมกับเรา ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการและการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ซึ่งได้ดำเนินการอย่างถูกกฎหมายก่อนมีการเพิกถอนความยินยอมดังกล่าว
4. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of Access)
ท่านมีสิทธิที่จะได้รับแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราจัดเก็บและวิธีการที่เรานำข้อมูลส่วนบุคคลนี้ไปใช้หรือเปิดเผย รวมถึงสิทธิในการรับสำเนารายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นอกจากนี้ ท่านมีสิทธิขอให้เราแจ้งแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสำหรับกรณีท่านไม่ได้ให้ความยินยอมไว้ ยกเว้นว่าสิทธิการเข้าถึงข้อมูลนั้นต้องไม่ขัดต่อกฎหมายหรือคำสั่งศาล และการใช้สิทธินั้นต้องไม่ละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น ซึ่งอาจเข้าไปดูข้อมูลตนเองในบัญชีสมาชิกของตนเองได้ หรือร้องขอกับผู้ดูแลระบบได้
5. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Rectification)
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลได้ หากท่านพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้จัดเก็บหรือบันทึกประวัติไว้นั้นไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นปัจจุบัน ท่านสามารถขอให้เราแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าวได้ตลอดเวลา
6. สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure)
ท่านมีสิทธิขอลบข้อมูล ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้จัดเก็บหรือบันทึกประวัติไว้นั้นได้ ซึ่งหากท่านใช้สิทธิขอลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว พึงระวังไว้ว่าท่านอาจจะทำให้การพิจารณาการสรรหาบุคคลากรไม่ตรงกับคุณสมบัติกับที่ทางเราต้องการ เนื่องด้วยเหตุที่ข้อมูลไม่เพียงพอต่อการพิจารณาของเรา
7. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งหมดหรือบางส่วนในเวลาใดก็ได้ หากมีเหตุแห่งการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราดำเนินการ ไม่เป็นไปเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ภารกิจของรัฐ โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือไม่เป็นไปเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์
หากท่านยื่นคัดค้าน เราจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่เราสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย แล้วแต่กรณี
8. สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability)
ท่านมีสิทธิขอให้เราส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บเกี่ยวกับท่านด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์อัตโนมัติในรูปแบบที่อ่านหรือใช้งานได้ให้กับท่าน ผู้แทนที่ได้รับอนุญาต หรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นได้ รวมถึงการขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเองได้ ซึ่งเราจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ท่านในรูปแบบ JSON, PDF หรือรูปแบบที่คล้ายกัน แต่การใช้วิธีการนี้จะต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย สัญญา หรือละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น
9. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
ท่านมีสิทธิขอให้เราระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล หากท่านไม่ต้องการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่ไม่ต้องการให้เรานำข้อมูลไปประมวลผลหรือนำข้อมูลของท่านไปใช้งานต่อไป สิทธินี้เกี่ยวข้องกับสิทธิประการอื่นด้วย เช่น กรณีที่เจ้าของข้อมูลใช้สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง และระหว่างที่เราตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เจ้าของข้อมูลสามารถใช้สิทธิในการระงับการประมวลผลได้ หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่มีฐานในการประมวลผล แต่เจ้าของข้อมูลไม่ต้องการใช้สิทธิในการลบเพราะเห็นว่าอาจเป็นประโยชน์ในอนาคต ดังนี้เจ้าของข้อมูลอาจใช้สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลลแทนได้
ในกรณีนี้ อาจมีข้อจำกัดตามกฎหมายหรือสัญญาที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ต่อท่าน หรือการดำเนินการอย่างถูกกฎหมายก่อนมีการใช้สิทธิดังกล่าว ถึงแม้ว่าท่านจะไม่สามารถใช้บริการของเราได้ในช่วงเวลาดังกล่าว เราจะยังคงเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปและจะนำกลับมาประมวลผลใหม่ในระบบของเราซึ่งขึ้นอยู่กับเจตนาของท่าน อย่างไรก็ดี หากท่านเปลี่ยนใจที่จะใช้บริการของเราอีกครั้ง จะส่งผลให้เรามีความจำเป็นที่จะต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป
10. สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียน หากท่านเชื่อว่าเรากระทำการหรือดำเนินการใดที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลหรือสิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อเราได้ตลอดเวลาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวก่อนที่จะยื่นคำร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแล
ทั้งนี้ เรามีสิทธิทั้งปวงและดุลพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการตอบรับเพื่อดำเนินการตามคำร้องขอหรือปฏิเสธคำขอของท่านซึ่งการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวไปข้างต้น อาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่เราอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากเราปฏิเสธคำขอข้างต้น เราจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ทราบประกอบด้วย
F. การเข้าถึงและการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในส่วนของข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้ ผ่านการสมัครใช้บริการสมาชิกได้ โดยการเข้าแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ แล้วเข้าสู่ระบบ (Login) และไปยังเมนู “ตั้งค่า” > “ ข้อมูลส่วนตัว” เพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง รวมถึงสามารถตั้งค่าการใช้งานในส่วนต่างๆ ได้ด้วยตนเอง
ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านเพิกถอนความยินยอมหรือไม่ยินยอมให้เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สำหรับกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม หรือท่านได้ดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกจากระบบของเรา อาจทำให้ท่านไม่สามารถรับบริการจากเราได้ โดยเฉพาะบริการที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านถอนความยินยอมหรือไม่ให้ความยินยอม หรืออาจทำให้บริการที่ท่านได้รับจากเราไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบนั้น สามารถร้องขอได้ที่ [email protected]
เราจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นเสี่ยงต่อการละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานรายอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือนโยบายความปลอดภัยของระบบ หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอของผู้ลงทะเบียน
หมายเหตุ: ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบนั้น เราจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดำเนินการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบด้วยเทคโนโลยีและความสามารถของระบบงานในปัจจุบัน อย่างไรก็ดีข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังคงได้รับการบันทึกหรือทำสำเนาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือระบบสำรอง (Backup System) ของเราตราบเท่าที่ไม่ขัดกับกฎหมาย เพื่อเป็นการสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาด บกพร่อง หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบ หรือในกรณีที่เกิดจากการกระทำใด ๆ ที่มีจุดประสงค์มุ่งร้ายต่อบุคคลหรือซอฟต์แวร์อื่น ตลอดจนเพื่อเก็บเป็นพยานหลักฐาน หรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หากท่านเชื่อว่า การที่เราเก็บรวมรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และหากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ ขอให้ท่านแจ้งเราทาง [email protected]
ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านไม่ยินยอมให้เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสำหรับกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม หรือท่านได้ดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกจากระบบของเรา อาจทำให้ท่านไม่สามารถรับบริการจากเราได้ หรืออาจทำให้บริการที่ท่านได้รับจากเราไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
G. ความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เราได้จัดทำหรือเลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) ที่เหมาะสม รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย สูญหาย เปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อกำหนดขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เรายังได้กำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน บริหารจัดการการเข้าถึงของผู้ใช้งาน เพื่อจำกัดการเข้าถึงเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้ว ทั้งยังมีการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ เรายังได้วางมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เราไม่อาจรับรองได้ว่าจะไม่มีความบกพร่องหรือความผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว ดังนั้น เราจึงขอสงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธความรับผิดในความเสียหายหรือสูญหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นในทุกกรณี
H. การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์และบริการของบุคคลภายนอก
เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือระบบ IR Plus ของเราอาจมีลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ และบริการของบุคคลภายนอก ซึ่งบุคคลภายนอกเหล่านั้นอาจเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการใช้บริการของท่าน โดยเราไม่สามารถรับผิดชอบในความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวของข้อมูลใด ๆ ของท่านที่เก็บรวบรวมโดยเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบุคคลภายนอกดังกล่าว ท่านควรใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์ และบริการของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย
I. การเปลี่ยนแปลงปรับปรุงประกาศ
เรามีสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลง แก้ไข และปรับปรุงให้ประกาศความเป็นส่วนตัวฯ นี้เป็นปัจจุบัน หรือแก้ไขข้อกำหนดของประกาศความเป็นส่วนตัวฯ นี้เมื่อใดก็ได้รวมถึงเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง โดยทางเราจะแจ้งท่านทราบผ่านช่องทางที่เหมาะสม
เราจะแจ้งให้ท่านทราบโดยประกาศความเป็นส่วนตัวฯ ที่ได้รับการปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันนี้จะปรากฎบนเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม หรือแอปพลิเคชันของเรา โดยเป็นหน้าที่ของท่านในการอ่านและทบทวนประกาศความเป็นส่วนตัวฯ อยู่สม่ำเสมอ ทั้งนี้การที่ท่านใช้แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือบริการ หรือติดต่อ หรือมีส่วนรวมกับเราต่อไปภายหลังวันที่มีผลบังคับใช้ หรือภายหลังการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน หรือการแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ ให้ถือว่าท่านได้ยอมรับการเปลี่ยนแปลง การปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน หรือการแก้ไขดังกล่าวแล้ว
J. ติดต่อเรา
หากท่านต้องการใช้สิทธิอันใดที่มีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งได้ระบุไว้ข้างต้น หรือหากมีคำถามเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวของบริการของเรา หรือมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ หรือต้องการร้องเรียนเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ เราได้มอบหมายตามหน้าที่การดูแลโดย [email protected] เป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเรา
หากท่านมีข้อสงสัยหรือคำถามเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถติดต่อ [email protected] หรือ
466 ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
นโยบายคุกกี้
เว็บไซต์นี้ ให้บริการโดย บริษัท ออนไลน์แอ็สเซ็ท จำกัด (ในที่นี้รวมเรียกว่า “Efin” หรือ “เรา”) เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้และเครื่องมืออื่นเพื่อช่วยแยกแยะรูปแบบการใช้งานเว็บไซต์ของท่านจากผู้ใช้งานอื่นๆซึ่งจะช่วยให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานเว็บไซต์และช่วยให้เราสามารถพัฒนาคุณภาพของเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น กรณีที่ท่านใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไป ถือว่าท่านได้ยินยอมให้เราติดตั้งคุกกี้ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน
คุกกี้ คือ อะไร
คุกกี้ คือ ไฟล์ข้อความขนาดเล็กที่ถูกดาวน์โหลดไปยังอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือของท่าน ซึ่งทำหน้าที่บันทึกข้อมูลและการตั้งค่าต่าง ๆ เช่น บันทึกข้อมูลการตั้งค่าภาษาในเบราว์เซอร์บนอุปกรณ์ของท่าน บันทึกสถานะการเข้าใช้งานในปัจจุบันของท่านเพื่อช่วยให้ท่านสามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างต่อเนื่องรวมถึงมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ที่ท่านชื่นชอบในรูปแบบไฟล์โดยคุกกี้ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์ของท่านและเนื้อหาในคุกกี้จะถูกเรียกออกมาดูหรืออ่านได้โดยเว็บไซต์ที่สร้างคุกกี้ดังกล่าวเท่านั้น
ประโยชน์ ของ คุกกี้
คุกกี้จะบอกให้เราทราบว่าท่านเข้าชมส่วนใดในเว็บไซต์ของเราเพื่อที่เราจะสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นและตรงกับความต้องการของท่านได้นอกจากนี้การบันทึกการตั้งค่าแรกของเว็บไซต์ด้วยคุกกี้จะช่วยให้ท่านเข้าถึงเว็บไซต์ด้วยค่าที่ตั้งไว้ทุกครั้งที่ใช้งานยกเว้นในกรณีที่คุกกี้ถูกลบซึ่งจะทำให้การตั้งค่าทุกอย่างจะกลับไปที่ค่าเริ่มต้น
การใช้งาน คุกกี้
เราใช้คุกกี้และเทคโนโลยีอื่นบนเว็บไซต์ของเรา (รวมเรียกว่า “บริการที่อ้างอิงนโยบายการใช้คุกกี้”) ดังนั้น เบราว์เซอร์ใดก็ตาม ที่ท่านใช้เพื่อเข้าถึงบริการที่อ้างอิงนโยบายการใช้คุกกี้จะได้รับคุกกี้จากเราเมื่อท่านเข้าถึงบริการที่อ้างอิงนโยบายการใช้คุกกี้ คุกกี้ของเราจะถูกดาวน์โหลดไปยังอุปกรณ์ของท่านเพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบการใช้และประวัติการใช้งานเว็บไซต์ ข้อมูลหรือบริการที่ท่านสนใจ รวมถึงหมายเลขอ้างอิงการเข้าใช้งานล่าสุดของท่าน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เราจะใช้งานคุกกี้ภายใต้รายละเอียดที่ระบุในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก Privacy Notice
สำหรับประเภทคุกกี้ที่เราใช้งาน สามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้
คุกกี้เพื่อการให้บริการ
คุกกี้เพื่อการให้บริการจะช่วยให้ท่านสามารถใช้บริการ และ/หรือเข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ เช่น คุกกี้ที่จัดการเรื่องการเข้าสู่ระบบ (Login) และสถานะการเข้าสู่ระบบของท่าน
คุกกี้ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้บริการ
คุกกี้ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้บริการ จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ท่านในการใช้บริการ รวมทั้งช่วยให้เรารู้จักท่านมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างการอำนวยความสะดวกแก่ท่านในการใช้บริการด้วยคุกกี้ประเภทนี้ คือ
ช่วยจำสถานะของการใช้บริการ เช่น ภาษาที่เลือกใช้
ช่วยจำคำตอบที่ท่านเคยตอบไปแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ท่านไม่ต้องตอบคำถามเดิมซ้ำอีก
ให้บริการฟังก์ชัน Social Media Sharing ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถแบ่งปันเนื้อหาที่สนใจบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network)
คุกกี้เพื่อการให้บริการ
คุกกี้เพื่อการให้บริการจะช่วยให้ท่านสามารถใช้บริการ และ/หรือเข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ เช่น คุกกี้ที่จัดการเรื่องการเข้าสู่ระบบ (Login) และสถานะการเข้าสู่ระบบของท่าน
คุกกี้ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้บริการ
คุกกี้ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้บริการ จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ท่านในการใช้บริการ รวมทั้งช่วยให้เรารู้จักท่านมากยิ่งขึ้น
ช่วยจำสถานะของการใช้บริการ เช่น ภาษาที่เลือกใช้
ช่วยจำคำตอบที่ท่านเคยตอบไปแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ท่านไม่ต้องตอบคำถามเดิมซ้ำอีก
ให้บริการฟังก์ชัน Social Media Sharing ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถแบ่งปันเนื้อหาที่สนใจบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network)
ทั้งนี้ เพื่อการให้บริการและเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ท่านในการใช้บริการตามตัวอย่างข้างต้น เรามีการใช้งานโปรแกรมเสริม (Plugin) และบริการของบุคคลที่สาม เช่น Google Analytics, Facebook Analytics, True hits
การตั้งค่าคุกกี้
ท่านสามารถบล็อกการทำงานของคุกกี้ได้โดยการกำหนดค่าในเบราว์เซอร์ของท่านซึ่งท่านอาจปฏิเสธการติดตั้งค่าคุกกี้ทั้งหมดหรือบางประเภทก็ได้ แต่พึงตระหนักว่าหากท่านตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านด้วยการบล็อกคุกกี้ทั้งหมด (รวมถึงคุกกี้ที่จำเป็นต่อการใช้งาน)
ท่านอาจจะไม่สามารถเข้าสู่เว็บไซต์ทั้งหมดหรือบางส่วนของเราได้ เมื่อใดก็ตามที่ท่านต้องการยกเลิกความยินยอมการใช้งานคุกกี้ท่านจะต้องตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อให้ลบคุกกี้ออกจากแต่ละเบราว์เซอร์ที่ท่านใช้งาน
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการดังกล่าว โปรดเลือกหัวข้อ “ความช่วยเหลือ” ในอินเตอร์เน็ตเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อศึกษาในรายละเอียดมากขึ้น